เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นำแถลงข่าวพร้อมด้วยตัวแทนอีก 7 พรรคการเมืองที่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลซึ่งนำโดยพรรคก้าวไกลที่ได้คะแนนเสียงในการเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 โดยหลังประชุมร่วมกัน มีข้อสรุปว่า หัวหน้าพรรคทั้ง 8 พรรคการเมือง ร่วมกันมีมติจัดตั้งคณะกรรมการประสานงานในช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยจะมีการประชุมครั้งต่อไปวันที่ 6 มิถุนายน 2566 โดยมีพรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าภาพ สำหรับคณะกรรมการประกอบด้วย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นประธานคณะกรรมการประสานงานในช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยมีตัวแทนจากพรรคการเมืองต่างดังนี้
พรรคก้าวไกล น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล
พรรคเพื่อไทย นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล
พรรคประชาชาติ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง
พรรคไทยสร้างไทย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ
พรรคเสรีรวมไทย นายวิรัตน์ วรศสิริน
พรรคเป็นธรรม นายกัณวีร์ สืบแสง
พรรคเพื่อไทรวมพลัง นายวสวรรธน์ พวงพรศรี
พรรคพลังสังคมใหม่ นายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมยังได้ตั้งคณะทำงาน 7 คณะ เพื่อตอบสนองการแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน 1. คณะทำงานเกี่ยวกับค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมันดีเซล และพลังงาน 2. คณะทำงานภัยแล้ง เอลนีโญ 3. คณะทำงาน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 4. คณะทำงานเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 5. คณะทำงานสิ่งแวดล้อมและ PM 2.5 6. คณะทำงานเศรษฐกิจปากท้องและ SME 7. คณะทำงานแก้ไขปัญหายาเสพติด
สำหรับคณะทำงาน จะประกอบด้วยตัวแทนของแต่ละพรรค โดยจะมีการประชุมต่อเนื่องเพื่อแจ้งความคืบหน้าต่อคณะกรรมการประสานงานในช่วงเปลี่ยนผ่านต่อไป ซึ่งคณะทำงานต่างๆ จะนำไปสู่การหาทางออกร่วมกันของทุกพรรคในการแก้ไขปัญหาของประเทศประเด็นต่างๆ เพื่อกลั่นกรองออกมาเป็นนโยบายร่วมกันในการแถลงต่อรัฐสภา และนำไปปฏิบัติในฐานะฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติต่อไป
นายพิธา ยืนยันด้วยว่า “การทำงานของเราเป็นไปได้ด้วยดี และเราจะสามัคคีกันเพื่อที่จะตั้งการทำงานในการแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยการจัดสรรตำแหน่งในฝ่ายบริหารจะเกิดขึ้นภายหลังจากการทำงานร่วมกัน โดยยึดวาระของการทำงานเพื่อประชาชนเป็นตัวตั้ง ส่วนตำแหน่งประธานสภา พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลจะพิจารณาร่วมกัน โดยเรายืนยันว่าเรื่องนี้จะไม่เป็นอุปสรรคในการจัดตั้งรัฐบาล”
อย่างไรก็ตาม นายพิธา ยังระบุก่อนจบคำแถลงด้วยว่า สิ่งสำคัญคือการเตรียมพร้อมบริหารราชการแผ่นดินเพื่อประชาชน ขณะนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีการประกาศผลคะแนนเลือกตั้ง 2566 อย่างเป็นทางการแล้วเหลือเพียงการรับรอง ส.ส. อย่างเป็นทางการ เพื่อเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ และคิดว่าประชาชนต่างหวังว่า กกต. จะใช้เวลาไม่นานในการรับรอง ส.ส. จะทำให้ความสามารถในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เกิดขึ้นได้โดยเร็ว เพื่อให้พวกเราเข้าไปบริหารผลักดันวาระต่างๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชนคนไทยต่อไป
“ชลน่าน” ชี้ปธ.สภาไม่ใช่โควตาพรรคใด ยันมัดกันแน่นไร้ปัญหาตั้งรบ.
ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตอบคำถามกรณีตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า คณะทำงานพูดคุยกันเบื้องต้น มีข้อตกลงร่วมกันชัดเจนว่า ตำแหน่งประธานสภาฯ ทั้ง 2 พรรคจะพิจารณาร่วมกัน ไม่ได้คำนึงว่าจะเป็นโควตาของพรรคใดพรรคหนึ่ง และจะไม่ให้เกิดเป็นปัญหาอุปสรรคต่อการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันของทั้ง 8 พรรค โดยเฉพาะพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย และไม่เป็นประเด็นที่จะทำให้เกิดข้อขัดแย้งหรือแตกแยก
“เรามัดกันแน่นอยู่แล้ว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราต้องการให้ตำแหน่งประธานสภาฯ เป็นลักษณะการสนับสนุนการเลือกนายกรัฐมนตรีให้ได้ ไม่เป็นอุปสรรคต่อการจัดตั้งรัฐบาลและการเลือกนายกรัฐมนตรี มุ่งเน้นความสงบสุขของพี่น้องประชาชนที่มุ่งหวังอยากได้รัฐบาลประชาธิปไตย และจะทำให้เร็วที่สุด ถ้า กกต.ประกาศรับรอง ส.ส. เราจะมีข้อยุติตรงนั้น เพื่อเตรียมเข้าสู่การเลือกในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร” นพ.ชลน่าน ระบุ