เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 ดร.นิยม เวชกามา อดีตส.ส.สายพระ พรรคเพื่อไทยเขต2 จังหวัดสกลนคร ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เตือนสติพรรคก้าวไกล อย่ามีกิเลส เกิดความโลภให้มาก ที่พรรคก้าวไกลได้ออกแถลงข่าวจะยึดทั้งฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ มันเป็นไปไม่ได้เพราะนี้คือรัฐบาลผสม ไม่ใช่รัฐบาลพรรคเดียว
ดร.มหานิยมกล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ เป็นรัฐบาลผสม หลายพรรค โดยมีการแกนหลักในการตั้งรัฐบาลคือพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ในเมื่อพรรคก้าวไกลได้ทำหน้าที่ฝ่ายบริหาร ได้ตำแหน่งใหญ่ เช่น นายกรัฐมนตรี และกระทรวงสำคัญใหญ่ๆ ไปแล้ว ดังนั้นหน้าที่ฝ่ายประธานฝ่ายนิติบัญญัติ คือตำแหน่งประธานรัฐสภา ควรเป็นของพรรคเพื่อไทย นี้อะไรกัน พรรคก้าวไกลยังไม่ได้ไปถึงไหน เพิ่งผ่านการเลือกตั้งมา เพียง 11 วัน ยังยืนยันจะกินรวบทุกตำแหน่ง จะฝันกลางวันมากไปหน่อยครับ
อย่ามาอ้างว่านี้คือประชาธิปไตยที่ประชาชนเลือกเป็นเสียงข้างมาก พรรคก้าวไกลคงลืมไปว่านี่ไม่ใช่เสียงของประชาชนทั้งประเทศครับมันเป็นเพียงส่วนหนึ่ง 14 ล้านกว่าเสียงเท่านั้น และ จำนวน ส.ส.ก้าวไกล 151 คน ยังไม่เกินครึ่งเลย ซึ่งก็ใช่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ถ้าพรรคเพื่อไทย ไม่เข้าร่วมด้วย ดังนั้นหยุดกร่าง! พูดเอาแต่ได้เสียทีเถอะ วาทกรรมสร้างโลกสวยการบริหารบ้านเมืองให้คำนึงถึงประชาชนเป็นหลักบนเส้นทางการเมืองไม่ใช่แค่ยึดตำแหน่งหรืออำนาจแต่เพื่อการเปลี่ยนแปลง แต่ ที่เห็นการกระทำที่ผ่านมาไม่กี่วัน พรรคก้าวไกลพูดเอาแต่ประโยชน์เข้าตัวเองเท่านั้น แค่เริ่มต้นก็ไม่รู้จักแบ่งปันดูแลประชาชนร่วมกัน ไม่เคารพนอบน้อมผู้หลักผู้ใหญ่ เห็นพรรคเพื่อไทย เป็นหัวหลัก หัวตอหรืออย่างไรครับ ดึงสติกลับมาเถอะ ถ้าอยากให้การจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้สำเร็จ จงลดทิฏฐิลดกิเลส ลดความโลภ เพื่อแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง ให้รัฐบาลผสมดำเนินไปได้ ผมเห็นควรให้ตำแหน่ง ประธานรัฐสภาตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นหน้าที่ของ ส.ส.ในสภา เป็นผู้เลือกให้เหมาะสมเป็นหน้าเป็นตาในฐานะการทำหน้าที่ประธานฝ่ายนิติบัญญัติเถอะครับ ไม่อย่างนั้น โลภมากนัก มักลาภหาย อยากได้มากเกินไป มักจะไม่ได้สิ่งนั้น หากพรรคเพื่อไทย ปล่อยมือครับ