พท.ประกาศ 3 ความพร้อม เปิดนโยบายดีกินจับต้องได้ ขอประชาชนเลือกตั้งแบบมียุทธศาสตร์ แบบแลนด์สไลด์

พท.ประกาศ 3 ความพร้อม เปิดนโยบายดีกินจับต้องได้ ขอประชาชนเลือกตั้งแบบมียุทธศาสตร์ แบบแลนด์สไลด์ ถึงจะเปลี่ยนแปลงประเทศได้
วันที่ 17 มีนาคม 2566 เวลา 09.00 น. ที่ยิมเนเซียม 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต พรรคเพื่อไทยได้จัดประชุมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 400 เขตพร้อมนโยบายใหม่ ประกาศความพร้อมแล้ว! ที่จะแลนด์สไลด์ พาประเทศไทยออกจากทุกวิกฤต

โดยมีนพ. ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส. น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและ ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมแกนนำ อาทิ นายเสนาะ เทียนทอง, ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง, นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช ส.ส. และประชาชนมาให้กำลังใจ รวมถึง นายพานทองแท้ ชินวัตร นางสาวพิณทองทา ชินวัตร ก็มาให้กำลังใจด้วย ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า แกนนำมาอย่างพร้อมเพรียง รวมทั้งมีนายสนธยา คุณปลื้ม บ้านใหญ่จากชลบุรี มาร่วมด้วย

สำหรับการเปิดตัวครั้งนี้ จะเห็นว่ามีอดีตส.ส.จากพรรคอื่น อาทิ นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ น้องสาวนายสมศักดิ์ เทพสุทิน มาเปิดตัวเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สุโขทัย แสดงถึงความชัดเจนว่า นายสมศักดิ์และกลุ่มสามมิตรย้ายกลับมาพรรคเพิ่อไทยแน่นอน และยังมีนางสุกุมล คุณปลื้ม ภรรยาของนายสนธยา คุณปลื้ม บ้านใหญ่จากชลบุรีเปิดตัวเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี อีกทั้ง นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ

นพ.ชลน่าน ได้ประกาศความพร้อมของพรรคเพื่อไทยคือผู้นำ นโยบายดี และผู้สมัครทั้ง 400 เขต ขณะนี้กระแสของพรรคดีที่ได้ประกาศแลนด์สไลด์ จึงไม่ต้องการให้ผู้สมัครประมาทขอให้ลงพื้นที่จัดปราศรัยย่อย เพราะหากประมาทแล้วจะทำให้พบกับความพ่ายแพ้ได้ จงมีความเชื่อมั่นในตัวของท่านเอง

“นอกจากความพร้อมของว่าที่ผู้สมัครแล้ว นโยบายของพรรคเพื่อไทยที่กินได้จับต้องได้ เป็นประชาธิปไตย พรรคเพื่อไทยกำลังจะกลับมารับใช้ประชาชนเหมื่อนกับอดีต จึงขอให้ประชาชนเลือกตั้งครั้งนี้แบบมียุทธศาสตร์ ทั้งคนและพรรคให้แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดินเท่านั้นถึงจะเปลี่ยนแปลงประเทศ ประชาชนถึงจะได้หมดหนี้หมดสิน การศึกษาของลูกหลานดีขึ้น” นพ.ชลน่าน กล่าว

ต่อจากนั้น

น.ส.แพทองธาร ขึ้นเวทีงาน ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน’ เปิดตัวนโยบายใหม่ จากพรรคเพื่อไทย พร้อมผู้ประสงค์ลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 400 คน ณ ยิมเนเซียม 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต “เพื่อไทยมีความพร้อมพรรคเพื่อไทยที่จะพาประเทศไทยข้ามผ่านวิกฤตการณ์ต่างๆ ที่กำลังเผชิญทั้งสภาวะยากจน สภาวะสงคราม และโรคระบาด หมดเวลายื้ออำนาจรัฐบาลที่ไม่เข้าใจประชาชน ขาดความรู้ ความเท่าทันสถานการณ์โลก เพราะท่ามกลางปัญหาที่ถูกทับถมเอาไว้ หากคิดไม่ใหญ่ เอาไม่อยู่ พรรคเพื่อไทยจึง ‘คิดใหญ่ ทำเป็น’ พร้อมประกาศ 3 นโยบายที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทยให้อยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี”

น.ส.แพทองธาร กล่าวต่อว่า เริ่มจากนโยบายแรก ลดช่องว่างรายได้คนไทยที่ต้องช่วยเหลือทันที ให้ทุกคนมีรายได้เพียงพอ ต่อการดำรงอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี มีรายได้ที่สูงมากกว่าอัตราเงินเฟ้อ เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยมีอัตราเติบโตของรายได้ต่อหัวโตช้ากว่าประเทศส่วนใหญ่ในอาเซียน พรรคเพื่อไทยจึงมีนโยบายเติมรายได้ให้ทุกครอบครัวมีรายได้ขั้นต่ำ 20,000 บาท / เดือน

โดยเราจะเติมเงินให้ในระยะชั่วคราวไปจนกว่านโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนจะสำเร็จ เพื่อให้เงินหมุนเวียนในระบบ รัฐก็จะมีรายได้จากภาษีเพิ่มขึ้น แพทองธารเพิ่มเติมว่านโยบายนี้อาจดูเหมือนประชานิยม แต่ความจริงแล้วคือการยกระดับ GDP ประเทศ เงินที่จะใช้ ก็จะมาจากภาษีที่เก็บได้เพิ่มขึ้นนั่นเอง

นโยบายที่สองคือการสร้าง Blockchain ที่จะทำให้ไทยการเป็นศูนย์กลาง Fintech (เทคโนโลยีทางการเงิน) ของอาเซียน เปิดโอกาสให้คนไทยสามารถระดมทุนจากทั่วโลกได้ โดยเฉพาะภาคธุรกิจขนาดเล็ก รวมทั้งการระดมทุนให้กับเกษตรกร ตลอดจนการขายสินค้าล่วงหน้า รวมถึงผู้ที่มีความสามารถทางด้านอื่นๆ ก็จะขายผลงานของตนไปทั่วโลกได้สะดวกขึ้น ผ่านระบบที่ง่ายเหมือนแอพพลิเคชันธนาคารในโทรศัพท์

และนโยบายที่สาม แพทองธารได้เน้นย้ำปัญหา PM2.5 ที่พรรคเพื่อไทยตั้งใจจะแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยยกภาพถ่ายดาวเทียมของนาซ่า ที่แสดงร่องรอยสีแดงในประเทศไทย และเพื่อนบ้าน อันเกิดจากการเผาป่าเพื่อทำไร่เลื่อนลอย

จึงต้องมีการแก้ไขร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านด้วยการเจรจา หาทางออก และการแก้ปัญหา ทั้งยังสนับสนุนการเกษตรให้ใช้การย่อยสลายแทนการเผาเพื่อการเกษตร ในส่วนมลภาวะที่เกิดจากการคมนาคม และอุตสาหกรรม จะใช้นโยบายลดภาษีรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษทางอากาศไม่เกินมาตรฐาน, รถยนต์ไฟฟ้า และเปลี่ยนเครื่องจักรที่ปล่อยมลพิษให้หมดไปโดยเร็ว

“ขอฝากถึงว่าที่ผู้ประสงค์ลงสมัคร ส.ส. ทั้ง 400 คนให้มีโอกาสได้รับเลือกเข้าไปเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนในสภา ร่วมสานต่อนโยบายทั้งหมดของพรรคเพื่อไทยให้สำเร็จ ช่วยกันแก้ปัญหาที่หมักหมมมา 8 ปี ให้เบาบาง และหายไปโดยเร็ว” น.ส.แพทองธาร กล่าว

https://www.facebook.com/VoiceOnlineTH/videos/923921258754644

จากนั้นนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ได้กล่าวว่า จะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะรัฐบาลนี้กู้เงินมาใช้เป็นจำนวนมากแต่กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้เลย ดังนั้น จะต้องนำแบบรัฐบาลไทยรักไทยกลับคืนมาให้ประเทศไทยเป็นเสือตัวที่ 5 ให้ได้ นำบล็อกเชนมาใช้จะนำเหรียญดิจิทัลเข้ากระเป๋าประชาชนตามบัตรประชาชนโดยให้ใช้ให้หมดภายใน 6 เดือน เรื่องต่อมาคือการเจรจาการค้ากับต่างประเทศ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลไม่มีการเจรจาการค้าระหว่างประเทศเลย กระตุ้นการท่องเที่ยว ขจัดพวกอภิสิทธิ์ชนต้องการเห็นสังคมที่ไม่เสมอภาคหมดไป

นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า ที่ผ่านตนได้เล็งเห็นถึงปัญหาความยากลำบากของประชาชน ได้เห็นปัญหาเศรษฐกิจที่รายได้น้อยลงสวนทางรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น ที่สร้างช่องว่างความเหลื่อมในสังคมให้กว้างขึ้น และเห็นถึงปัญหาทางสิทธิที่ประชาชนถูกรัฐกัดกัน โดยเฉพาะสิทธิในการแสดงความคิดเห็นอย่างเป็นประชาธิปไตยของประชาชน จึงขอฝากให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกคนที่ประสงค์ลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 400 คน ได้เป็นตัวแทนประชาชน นำนโยบายของพรรคเพื่อไทยแก้ไขปัญหาความเป็นเป็นให้พี่น้องประชาชน

นอกจากนี้ การประกาศนโยบายใหม่ ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจใหญ่ ผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล โดยการสร้างกระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet) ให้คนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ได้จับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันใกล้บ้าน พร้อมเงินติดกระเป๋าที่รัฐจะแจกให้ทุกคน แต่เงินดิจิทัลนี้จะใช้จ่ายได้ เฉพาะกับร้านค้าชุมชน และต้องอยู่ในรัศมี 4 กิโลเมตร เท่านั้น เงินดิจิทัลนี้ มีอายุการใช้งาน 6 เดือน และร้านค้าสามารถนำเงินดิจิทัลมาแลกเป็นเงินบาทได้กับธนาคารรัฐในภายหลัง นโยบายนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจหมุนเวียนระดับชุมชน เพื่อให้แน่ใจว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งตั้งแต่ระดับชุมชนขึ้นไปจนระดับประเทศ

นอกจากนี้ นายเศรษฐา ยังพูดถึงแนวทางการต่างประเทศของพรรคเพื่อไทยที่จะเปิดประตูการค้าและสร้างโอกาส ให้คนไทยได้มีบทบาทมากขึ้นในเวทีโลก โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของรัฐบาลในการเป็นผู้เจรจาและเชื่อมสายสัมพันธ์กับนานาประเทศ เรียกความมั่นใจและความน่าเชื่อถือของประเทศไทยในเวทีโลกให้กลับคืนมา ประชาชนจะได้ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากมายท้ังจาก การค้าระหว่างประเทศ การท่องเที่ยวที่จะเติบโตขึ้นหลายเท่า และดึงดูดเงินจากต่างประเทศให้เข้ามาฝากในเมืองไทย เพิ่มเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทย แล้วพาสปอร์ตไทยจะต้องมีอิทธิพลพาคนไทยเดินทางไปได้ทั่วโลก

นายเศรษฐาได้พูดถึงความสิ้นศรัทธาในเรื่องสิทธิมนุษยชนที่เป็นหน้าที่ของรัฐบาลถัดไป ในการกอบกู้ศักดิ์ศรีของประชาชนให้มีสิทธิ์เสรีในการแสดงความคิดเห็น รวมถึงการเกณฑ์ทหารที่ต้องเป็นระบบสมัครใจ เพื่อสร้างทหารอาชีพ ขอบเขตการทำงานที่ชัดเจน คืนเกียรติให้กับกองทัพ และแก้ไขกระบวนการยุติธรรมที่บิดพริ้วคืนศักดิ์ศรีให้ประชาชนที่ถูกดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรม สร้างความเสมอภาคในสังคม ภายใต้รัฐบาลใหม่ของพรรคเพื่อไทย ขอให้ว่าที่ผู้ประสงค์ลงสมัครส.ส. ทุกท่านเป็นตัวแทนพรรคนำความนโยบายพรรคเพื่อไทยไปเสนอให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่างๆ อย่างจริงใจ พร้อมอวยพรให้ทุกท่านได้ชนะเลือกตั้ง และทำให้พรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *